Last updated: 19 ธ.ค. 2566 | 130828 จำนวนผู้เข้าชม |
5 ปีที่ผ่านมา ผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนและโรคแพนิคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!
ย้อนกลับไปสัก 4-5 ปีที่แล้ว แทบจะไม่มีคนรู้จักโรคกรดไหลย้อนหรือโรคแพนิค เมื่อมีอาการปวดท้อง ท้องอืดจุกเสียด สิ่งแรกที่เรามักนึกถึงคือ โรคกระเพาะอาหารกำเริบ แต่ด้วยวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้เราเริ่มรู้จักโรคกรดไหลย้อนและโรคแพนิคมากชึ้ยและกลายโรคยอดฮิตที่สร้างความรำคาญและกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก สังเกตุได้จากจำนวนผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนที่มากขึ้น และมักมีอาการของโรคแพนิคแฝงอยู่ด้วยจนอาจเรียกได้ว่า อาการของโรคทั้งสองนั้นมีความสัมพันธ์กันค่ะ
อาการโรคของทั้งสองค่อนข้างจะเหมือนกันแทบจะทุกอย่าง ได้แก่ มีอาการใจสั่น ใจเต้นแรง หายใจไม่อิ่ม หายใจขัด เจ็บหน้าอก ไม่มีแรง หน้ามืด หวิวๆคล้ายจะเป็นลม ปวดท้อง วิงเวียน ท้องไส้ปั่นป่วน โรคกรดไหลย้อนและโรคแพนิค จึงมีความสัมพันธ์กัน กรดไหลย้อนก่อให้เกิดโรคแพนิค... โรคแพนิคก่อให้เกิดโรคกรดไหลย้อน
กรดไหลย้อน กับ โรคแพนิค เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
อาการของผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนที่มักจะเริ่มจากท้องอืด อาหารไม่ย่อย จุกแน่นท้อง แน่นกลางอก จุกในลำคอเหมือนมีอะไรมาขวางคออยู่ พอนานๆเข้าจะมีอาการแสบร้อนกลางอกทานอาหารได้น้อยลง น้ำหนักลด เบื่ออาหาร กินยาไม่หาย นอนไม่หลับ หาทางรักษาให้หายขาดไม่ได้ ส่งผลให้คนไข้เริ่มรู้สึกเครียด วิตกกังวล จนเริ่มมีภาวะเครียดสะสม ท้ายสุดก็กลายเป็นโรคแพนิค
ในขณะเดียวกัน ผู้ป่วยที่เป็นโรคแพนิค มักเกิดจากภาวะความเครียดสะสม เช่น ความกดดันจากการทำงานหนัก เรียนหนัก มีภาระหน้าที่มากจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น พักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้สมองผลิตฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมาโดยไม่ทันรู้ตัว ทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ กระเพาะอาหารทำงานแปรปรวน จนทำให้เกิดเป็นโรคกระเพาะ กรดไหลย้อนในที่สุด
เราควรรับมือกับปัญหานี้อย่างไร?
ต้นตอปัญหาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นโรคกรดไหลย้อนและโรคแพนิค เกิดจาก การไม่ดูแลสุขภาพ คนมักคิดว่าเราแข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วย ตื่นเช้ามาไม่ต้องทานข้าว แค่กาแฟแก้วเดียวก็อยู่ได้ถึงบ่าย วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ต้องทำงานหนักขึ้น ใช้ชีวิตรีบเร่งแข่งกับเวลา ทานข้าวไม่ตรงเวลาบ้าง ทานอาหารมื้อหนักบ่อยๆสังสรรค์กับเพื่อนบ้าง กินแล้วนอนทันที สะสมนานๆเข้าร่างกายจึงเริ่มส่งสัญญานความผิดปกติออกมา สำหรับผู้ป่วยที่กำลังทรมานจากโรคนี้ แล้วอยากให้อาการหายขาด ลองทำตามวิธีเหล่านี้ดูนะคะ
1. จัดระเบียบวางแผนการใช้ชีวิตใหม่
ถ้ารู้ตัวว่าทำงานหนัก เรียนหนักเกินไป เครียดเกินไป ให้พักบ้าง หายใจเข้าลึกๆ นับ 1-5 แล้วหายใจออกยาวๆ ช่วยให้ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมอง (ปัจจุบันคนเราหายใจสั้นมาก ลองสังเกตุตัวเองดูนะคะ) ถ้าเราทานเนื้อสัตว์มากเกินไป ลองหันมาเพิ่มปริมาณผักดูบ้าง นอกจากช่วยล้างสารพิษในตับแล้ว ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีด้วย ถ้าเรากังวล กลัวว่าจะอาการเจ็บป่วยที่เป็นจะลุกลามไปมากกว่าเดิม นั่นคือเรื่องดี เพราะเรากำลังรับฟังอวัยวะภายในที่ส่งสัญญานเจ็บป่วยออกมา
2. ออกกำลังกายบ้าง
ผู้ป่วยกว่า 80% หายขาดจากกรดไหลย้อนและโรคแพนิค เพียงออกกำลังกาย 3-4 วันต่อสัปดาห์ เพราะการออกกำลังกาย ช่วยผ่อนคลายความเครียดกังวล ช่วยให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียน ขับของเสียที่ตกค้างในแบบธรรมชาติ และช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรง การออกกำลังกาย ยังเป็นการกระตุ้นให้ดื่มน้ำ ช่วยให้สุขภาพดีอีกด้วย
3. ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร
เคี้ยวข้าวให้ละเอียด ทานอาหารให้ช้าลง ในแต่ละมื้อไม่ควรทานปริมาณมากเกินไป หลังทานข้าวเสร็จ ไม่ควรนอนทันที ทานอาหารทั้ง 5 หมู่ให้ครบ ดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารได้แทบทั้งหมด
ตำรับยาสมุนไพรช่วยรักษาโรคระบบทางเดินอาหาร
ยาขับลมตราเพชรแดง ตำรับยาจากสมุนไพร 4 ชนิด เปล้าตะวัน กระเพราแดง ขิงแก่ ตะไคร้ มีสรรพคุณขับลมในกระเพาะอาหาร ช่วยบำรุงกระเพาะอาหารและฟื้นฟูระบบย่อย (ในทางแพทย์แผนไทยเรียกว่า บำรุงไฟย่อย หรือ ไฟกองปริณามัคคี) สมุนไพรเปล้าตะวัน มีสารสำคัญเรียกว่า เปลาโนทอล ซึ่งมีคุณสมบัติในการสมานแผลในกระเพาะอาหารและรักษาโรคกรดไหลย้อนได้เป็นอย่างดี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อ กดที่รูปภาพข้างล่างได้เลยค่ะ
7 พ.ค. 2561
30 พ.ค. 2561
4 ก.ย. 2562